ลดน้ำหนัก ด้วยวิธีไหนปลอดภัยและดีที่สุด

ชาเขียวช่วยได้

ชาเขียว เป็นพืชที่ขึ้นชื่อเรื่องสร้างสมดุลให้ร่างกาย ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น เราแนะนำให้สาว ๆ จิบชาเขียวร้อนหรือเย็นเบา ๆ จะช่วยเพิ่มพลังให้ร่างกายเผาผลาญได้ดีขึ้น และถ้ายิ่งมีเวลาออกกำลังกายด้วยยิ่งดีเข้าไปใหญ่เลยค่ะ ส่วนขนมหรือของหวานต่าง ๆ ที่มีส่วนผสมของชาเขียวอาจจะต้องพักไว้ก่อน เพราะอาหารเหล่านี้มักจะมีน้ำตาลและแป้งซึ่งอาจทำให้เราอ้วนกว่าเดิมโดยไม่รู้ตัวค่ะ

เคี้ยวให้ละเอียด

รู้หรือไม่ว่าการเคี้ยวอาหารให้ละเอียดรวมถึงการเคี้ยวช้า ๆ ก็มีผลต่อน้ำหนักของเราได้ค่ะ นั่นก็เพราะว่าการเคี้ยวอาหารอย่างช้า ๆ และละเอียดจะทำให้ความรู้สึกอยากอาหารของเราลดลง อิ่มง่ายขึ้น ที่สำคัญการเคี้ยวอาหารให้ละเอียดยังดีต่อระบบย่อยอาหารภายในร่างกายด้วยนะ!!

ดื่มน้ำก่อนมื้ออาหาร

วิธีนี้ง่ายและทรมานน้อยที่สุด แค่ดื่มน้ำประมาณ 1-2 แก้ว ก่อนกินข้าว 30 นาที จะช่วยให้เรารู้สึกหิวน้อยลง เพราะโดยปกติถ้าร่างกายเราขาดน้ำ ร่างกายจะส่งสัญญาณไปที่สมองทำให้เรารู้สึกหิว เมื่อดื่มน้ำไปก่อนจึงช่วยบรรเทาความหิวและทำให้เราสามารถกินข้าวได้น้อยลงนั่นเองค่ะ

เปลี่ยนวิธีกินของว่าง

ไม่ว่าจะเป็นชานมไข่มุก โดนัท เค้ก ก็อาจจะต้องพักไว้ก่อนในโปรแกรมลดน้ำหนักครั้งนี้ค่ะ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเราไม่สามารถกินขนมหรือของว่างระหว่างวันได้ แค่ลองเปลี่ยนประเภทอาหารสักนิดมาเป็นแบบที่แคลอรีต่ำและมีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น ผลไม้ที่รสไม่หวานมาก โยเกิร์ต ธัญพืช อยู่ท้องระหว่างวันแถมได้ประโยชน์ด้วยนะ!

เลือกจานให้ถูกแบบ

เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่สาว ๆ อาจเก็บไว้ใช้ในตอนที่ทำอาหารกินที่บ้านก็ได้ค่ะ มีงานวิจัยด้านฟิสิกส์อาหารระบุว่าขนาดและสีของจาน มีผลต่อความอิ่มในการกินของเราค่ะ โดยให้เลือกจานที่ขนาดไม่ใหญ่มาก และเลือกสีจานที่ตัดกับสีอาหารให้มากที่สุด เพื่อที่จะได้ทำให้อาหารไม่ดูน้อยจนสมองเข้าใจว่าเรายังกินไม่อิ่มค่ะ

ขยับตัวเล็ก ๆ น้อย ๆ

หลายคนมีเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ไม่ได้ออกกำลังกายก็คือไม่มีเวลาค่ะ ข้อนี้เรารู้เพราะเราก็เป็น แต่สำหรับไลฟ์สไตล์สาวออฟฟิศที่วัน ๆ นั่งอยู่แต่ที่โต๊ะทำงาน ลองหาโอกาสขยับตัวสักเล็กสักน้อยก็ดีเหมือนกัน เช่น เดินขึ้นบันไดแทนการใช้ลิฟต์ เดินเท้าแทนการขึ้นรถในระยะทางใกล้ ๆ บิดตัวซ้าย-ขวาตอนนั่งที่โต๊ะทำงานบ้าง ลุกออกมาเดินระหว่างวันบ้าง นอกจากจะช่วยเผาผลาญพลังงานได้แล้วยังทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นด้วยนะคะ

เริ่มมื้อเช้าด้วยอาหารที่มีโปรตีน

โปรตีนเป็นสารอาหารที่ให้พลังงานเท่ากับแป้ง แต่สำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนักอยู่นั้นถือว่ามีประโยชน์มากกว่าแป้งในหลายด้านเลยค่ะ ดังนั้นในมื้อที่สำคัญที่สุดอย่างมื้อเช้า เราเลยแนะนำให้กินอาหารที่มีโปรตีน เช่น นม ถั่ว ไข่ไก่ เนื้อปลา แทนที่จะเป็นอาหารจำพวกแป้ง นอกจากจะอยู่ท้องแล้วยังช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อ และลดความอยากอาหารได้ด้วยนะคะ

กินอย่างเป็นระบบ

ข้อนี้สำคัญมากสำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนักเลยค่ะ เพราะร่างกายของเรามีการทำงานเป็นเวลา ดังนั้นเพื่อให้ระบบเผาผลาญทำงานได้อย่างดี จึงต้องมีการกินอย่างเป็นระบบค่ะ เราแนะนำการกิน 2 แบบ แบบแรกคือ การนับแคลอรี ไปด้วย โดยสาว ๆ อาจจะโหลดแอปมาช่วยควบคุมปริมาณแคลอรีที่กินในแต่ละวันให้ตรงกับที่ร่างกายต้องการค่ะ

การกินอีกแบบที่ช่วยให้น้ำหนักลงได้เหมือนกันก็คือการกินแบบ IF (Intermitting Fasting) ใช้วิธีนับชั่วโมงการกิน (8-9 ชั่วโมงแล้วแต่คน) กับชั่วโมงที่ห้ามกิน (14-16 ชั่วโมง) โดยจะช่วยกระตุ้นร่างกายให้สลายไขมัน และสร้างกล้ามเนื้อได้ค่ะ

ใส่ใจการนอนพักผ่อน

การนอนของเราเป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญของการลดน้ำหนักที่เรามักมองข้ามกันค่ะ ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอนจาก ตี 1 ตี 2 มาเป็นนอนตั้งแต่ 4-5 ทุ่ม แล้วตื่นสัก 6-7 โมงเช้าให้ได้ชั่วโมงที่เพียงพอ จะช่วยกระตุ้นการหลั่งของฮอร์โมนที่เกี่ยวกับการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย และควบคุมการเผาผลาญแคลอรีได้ดีกว่าเดิมค่ะ รู้แบบนี้แล้วก็อย่านอนดึกกันเลย

ลดการกินโซเดียมให้น้อยลง

แม้ว่าเกลือและน้ำปลา หรือเครื่องปรุงทั้งหลายจะทำให้รสชาติอาหารอร่อยขึ้น แต่การกินโซเดียมมากเกินไป จะทำให้เราตัวบวมได้ง่ายๆ ! ฉะนั้นอาหารที่เราปรุงเองควรลดเกลือหรือโซเดียมให้น้อยลง

ลดการกินน้ำตาล

เหล่าเครื่องดื่มทั้งหลายที่มีน้ำตาล ไม่ว่าะเป็นน้ำอัดลม ชานมไข่มุก หรือกาแฟ/ชาใส่น้ำตาล หรือแม้กระทั่งสารแทนความหวานต่างๆ ควรกินให้น้อยลงค่ะ เพราะน้ำตาลคือคาร์โบไฮเดรตชนิดหนึ่ง ซึ่งจะถูกแปรเปลี่ยนไปเป็นไขมันสะสมในที่สุด น้ำตาลจึงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของความอ้วนที่เห็นผลชัดมากๆ !

เพิ่มผักในทุกมื้อ

การมีระบบย่อยอาหาร การขับถ่ายที่ดี จะช่วยให้การลดน้ำหนักได้ผลเร็วมากขึ้นค่ะ ซึ่งการเพิ่มผักใบเขียวหรือไฟเบอร์เข้าไปในทุกมื้ออาหารจะช่วยให้ระบบย่อยอาหารของเราดีขึ้น ทั้งยังช่วยให้ระบบการขับถ่ายทำงานได้เป็นระบบมากขึ้นด้วย ถ้าระบบย่อยดีขับถ่ายคล่อง รับรองว่าพุงแบนๆ อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมค่า

กระโดดเชือกทุกวันวันละ 20 นาที

กระโดดเชือก เป็นวิธีออกกำลังกายที่ลดน้ำหนักได้ดีสุดๆ ค่ะ เพราะการกระโดดเชือกเพียง 15 นาที เทียบเท่ากับการวิ่งออกกำลังกาย 30 นาทีเลยล่ะ! โดยการกระโดดเชือกในแต่ละวัน แนะนำให้กระโดดครั้งละ 10 นาที วันละ 2 ครั้ง

ดื่มน้ำมะนาวทุกเช้า

นอกจากอาหารแล้ว น้ำก็เป็นเรื่องสำคัญที่ทำให้การลดน้ำหนักมีประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ โดยแนะนำว่า ให้ดื่มน้ำอุ่นโดยใส่มะนาวฝานลงไปด้วยในตอนเช้าของทุกวัน การดื่มน้ำมะนาวแบบนี้ทุกเช้า จะช่วยดีท็อกซ์และเผาผลาญไขมันได้ดีขึ้น!

หันมาฝึกโยคะเป็นประจำ

โยคะไม่เพียงช่วยคลายกล้ามเนื้อ คลายอาการปวดเมื่อยเท่านั้นค่ะสาวๆ แต่โยคะยังช่วยกระชับกล้ามเนื้อไม่ว่าจะเป็นหน้าท้อง ต้นขา หรือแขนได้ดีอีกด้วย แถมโยคะบางท่ายังสามารถช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย ทำให้เราขับถ่ายได้เป็นปกติขึ้นอีกด้วยล่ะค่า

กินปลา ไม่อ้วน!

กินปลาไม่ได้ช่วยให้ฉลาดอย่างเดียวนะคะสาวๆ แต่ยังช่วยให้ผอมได้อีกด้วย! เพราะปลามีไขมันดีอย่าง โอเมก้า-3 ที่นอกจากจะดีต่อหัวใจแล้ว ปลายังเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดี ที่มีประโยชน์ต่อการลดน้ำหนักสุดๆ สำหรับใครที่ไม่ชอบกินปลาจะกินอาหารเสริมที่เป็นน้ำมันปลาก็ได้เช่นกัน!

หากคุณเปลี่ยนพฤติกรรมการกินของตัวเอง รวมทั้งความสัมพันธ์ที่มีต่ออาหารด้วย การ ลดน้ำหนัก ก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น และนี่คือ 10 เคล็ดลับ ที่จะเปลี่ยนชีวิต และรูปร่างของคุณจากหน้ามือเป็นหลังมือ

1.อย่าอด

กินอาหารที่ตัวเองชอบไปเถอะ แค่กะปริมาณให้เหมาะสมก็พอ เพราะหากเราฝืนตัวเองมากเกินไป สุดท้ายเมื่อคุณหิวคุณก็ไปหาอะไรกินต่ออยู่ดี ซึ่งมันอาจจะมากกว่าตอนแรกที่อยากก็ได้

2.รู้จักวางแผน

เวลาหิวมองไปทางไหนก็เห็นแต่ของอร่อย ดังนั้นไม่ควรสั่งอาหารตอนที่หิวจัดๆ ถ้าคุณรู้ตัวว่ากำลังจะไปร้านสเต็กก็จงมีความสุขไปกับการรับประทานเนื้อสัตว์ ส่วนมื้อที่เหลือขอเป็นธัญพืชเต็มเมล็ด และพืชผักสดๆ แล้วกัน

3.เลิกนับแคลอรี่

แทนที่จะนับแคลอรี่ หันมาสนใจว่าอาหารเหล่านี้มาจากไหนและมีประโยชน์หรือไม่ดีกว่า อาหารที่มีประโยชน์และอุดมไปด้วยสารอาหารจะช่วยบรรเทาความหิว รักษาระดับน้ำตาลในกระแสเลือดให้คงที่ ลดอาการอยาก และช่วยให้สมองส่งสัญญาณไปยังกระเพาะว่าคุณอิ่มแล้ว

4.เลิกความซ้ำซากจำเจ

สร้างสีสันและรสชาติใหม่ๆ ขึ้นมาบ้าง ไม่ต้องไปกลัวกระเทียมหรือน้ำมันมะกอก หรือไม่ก็เปลี่ยนรูปแบบในการปรุงอาหาร เช่น นำผักไปปิ้งย่างบ้างอะไรบ้าง

5.เตรียมให้พร้อมและนำไปเก็บ

ล้างผักให้สะอาดและหั่นให้เรียบร้อยทันทีที่กลับมาจากตลาด จากนั้นก็นำไปเก็บไว้ในภาชนะแก้วที่สามารถมองเห็นได้ ถ้าอาหารพร้อมแล้วก็หมายความว่าคุณพร้อมที่จะกินมัน แต่ถ้าไม่พร้อมคุณก็คงไปหาอาหารที่สะดวกกว่านั้นมากิน จริงป่ะ?

6.กินอย่างราชา

หลายคนบอกว่าอาหารเช้าสำคัญที่สุดแต่บางครั้งคุณก็ยังไม่ค่อยหิวนี่นา อันที่จริงมื้อเที่ยงน่าจะสำคัญที่สุดเพราะระบบย่อยอาหารของคุณพร้อมเต็มพิกัดและคุณก็สามารถกินได้เต็มที่

7.ทิ้งความรู้สึกผิดไปซะ

ถ้ามัวแต่กลัวอ้วน กลัวว่าน้ำหนักจะขึ้น ความสุขในการกินของคุณก็จบลงแล้ว! ถ้าคุณจะกินก็จงกินอย่างมีความสุข เพียงแค่เลือกรับประทานอาหารให้เหมาะสมแค่นั้นเอง

8.กินอาหารหลากสี

การรับประทานอาหารทุกสีจะช่วยให้ร่างกายมีพฤกษเคมีในการต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ นอกจากนี้ยังทำให้คุณอิ่มท้องและเอาชนะความอยากอาหารที่ไร้ประโยชน์ได้อีกด้วย

9.รู้ว่าเก็บอาหารว่างไว้ที่ไหน

คุณควรเก็บอาหารว่างเพื่อสุขภาพ เช่น ถั่ว ผลไม้ และโยเกิร์ต ไว้ในตู้เย็น หรือบนโต๊ะทำงานบ้าง การเก็บอาหารเหล่านี้ไว้ใกล้มือจะช่วยให้คุณสามารถหลีกเลี่ยงขนมหวานหรืออาหารว่างที่ไม่มีประโยชน์ได้

10.ปฏิบัติตามกฎ 80/20

พฤติกรรมการกินของคนเราไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ กฎนี้คือรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพร้อยละ 80 และอีกร้อยละ 20 อนุญาติให้ตามใจปากได้นิดๆ หน่อยๆ คุณจะปฏิบัติตามกฎนี้ทุกวันหรือทำเฉพาะในวันหยุดสุดสัปดาห์ก็ได้ ที่สำคัญพยายามฟังว่าร่างกายต้องการบอกอะไรคุณ สิ่งเหล่านี้จะช่วยป้องกันไม่ให้คุณรับประทานอาหารมากเกินไป

เป็นยังไงกันบ้าง แต่ละเทคนิคไม่ยากเลยใช่ไหมล่ะ แต่อย่าลืมว่าถ้าพอมีเวลาก็สาว ๆ ควรออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง และการลดน้ำหนักของเราเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

อัพเดตข่าวสารเกี่ยวกับ สุขภาพและการออกกำลังกาย ได้ที่นี้ก่อนใคร